วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กินอะไร ช่วยความจํา!!

กินอะไรให้ความจำดี


        คุณเคยรู้สึกไหมว่า เราได้ใช้งานสมองอย่างหนักในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือ เรียนหนังสือ จนบางครั้งรู้สึกว่าสมองล้าคิดอะไรไม่ค่อยออกและขี้หลงขี้ลืมในบางที
         ปกติแล้วการทำงานของสมองจะเกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาท โดยเฉพาะ “อะซีทิลโคลีน (acetylcholine)” ซึ่งเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพความจำ และก็มีอาหารหลายชนิดที่มีส่วนช่วยให้สมองเราทำงานดีขึ้นในด้านความจำ …ถึงเวลาหรือยังที่เราจะมาบำรุงสมองด้วยอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยให้ความจำดีขึ้นกัน เราจะนำอาหารช่วยบำรุงความจำมาแนะนำกันค่ะ    พืชผักจำพวกหอมหัวใหญ่ พริก ขิง มีสารสำคัญที่ช่วยเพิ่มเซลล์สมอง และกระตุ้นการหลั่งสารอะซีทิลโคลีน จึงช่วยให้ความจำดีขึ้น

    ใบบัวบก มีสารที่ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของสมอง ทำให้สมองตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ดี สมาธิดี และความจำดีขึ้น

    เนื้อสัตว์ มีสารทอรีน ที่พบเฉพาะในโปรตีนจากเนื้อสัตว์เท่านั้น ช่วยบำรุงสมอง

    ปลาทะเล มีโอเมก้า 3 ช่วยให้เซลล์ประสาททำงานได้อย่างเป็นปกติ ลดการเกิดพลัค (plaque) ในสมองและป้องกันอัลไซเมอร์ได้

    ธัญพืช มีกรดโฟลิก วิตามินบี 12 และวิตามินบี 6 เช่น ซีเรียลธัญพืช รำข้าว หรือข้าวซ้อมมือ อาหารเหล่านี้จะช่วยในเรื่องความจำได้เป็นอย่างดี

    มะเขือเทศ มีไลโคพีน สารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายของอนุมูลอิสระ ซึ่งพบในอาการของโรควิกลจริตและอัลไซเมอร์

    บร็อกโคลี เป็นแหล่งรวมของวิตามินเค ที่ช่วยในการเพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ และช่วยเพิ่มความสามารถในการจำ

    ถั่ว ผักใบเขียว ไข่ ข้าวซ้อมมือ มีวิตามินอีช่วยในการป้องกันความจำเสื่อม

    เมล็ดฟักทอง มีสังกะสีที่มีความสำคัญในการช่วยเพิ่มความทรงจำ ถ้ารับประทานเมล็ดฟักทองวันละ 1 กำมือ จะทำให้ได้รับสังกะสีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

      นอกจากอาหารที่แนะนำมาแล้วนั้น ยังมีผลการศึกษาวิจัยใหม่ๆ จากนักประสาทวิทยา สหรัฐฯ พบ
ว่า สารเคมีในช็อกโกแลต ชา องุ่น และผลบลูเบอรี ช่วยบำรุงความจำได้ โดยช่วยให้เลือดลมในสมองเดินดีขึ้น และหากออกกำลังเพิ่มด้วยแล้วก็จะยิ่งช่วยให้สมองทำงานได้ดียิ่งขึ้น 
         หาก ต้องการให้สมองของเราดี มีความจำที่เป็นเลิศ ก็อย่าละเลยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์บำรุงความจำ และถ้าจะให้ผลดีก็ต้องรับประทานเป็นประจำด้วย สมองก็จะดีแบบเสมอต้นเสมอปลายค่ะ 

ที่มา ... Nestle
(เคล็ดลับสุขภาพ - beauty trips)
http://www.oknation.net/blog/diamond/2010/12/01/entry-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น